รีวิว iPhone 4 ภาคทดสอบความอึด

และแล้วก็เชื่อว่าถึงเวลาที่ท่านผู้อ่าน ที่ติดตามอ่าน “นานาสาระกับนายกาฝาก” รอคอยก็มาถึง กับตอนแรกสุดของการรีวิว iPhone 4 ยอดนิยมของหลายๆ ท่าน … การรีวิวของ iPhone 4 ครั้งนี้ ผมจะทำออกมาเป็นภาคๆ เพื่อไม่ให้ยาวจนเกินไปครับ แต่ละภาคก็

จะพูดถึงไปคนละเรื่องสองเรื่อง และในตอนแรกนี้ คือการทดสอบความอึดครับ

อย่าง ที่ท่านผู้อ่านได้เห็นผมเกริ่นนำไปก่อนหน้านี้แล้ว คงจะพอเดาได้ว่า การทดสอบความอึดของผมนั้นหมายความว่ายังไงนะครับ วันนี้เราจะมาจัดเต็มกันครับ

อึดที่ 1 … แบตเตอรี

Steve Jobs ได้อวดสรรพคุณเอาไว้อย่างชัดเจนว่า iPhone 4 นั้นมาพร้อมกับชิป A4 ทำหน้าที่เป็นหน่วยประมวลผล และทำให้การจัดการด้านพลังงานทำได้ดีมาก ทำให้หลายๆ คน ต่างคาดหวังว่าอายุแบตเตอรี่นี่คงอยู่ยืนยงแน่นอน

เนื่องจาก iPhone 4 ที่ใช้ในการทดสอบในครั้งนี้ ได้รับการเอื้อเฟื้อจาก DTAC iPhone 4 ครับ ดังนั้นผมจึงทดสอบแค่ในระดับของการใช้ EDGE เท่านั้น (แต่ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะบ้านเราในตอนนี้ ยังไม่พร้อมที่จะมี 3G ในเชิงพาณิชย์ในสเกลใหญ่ระดับ

ประเทศ แม้ว่า TOT และ CAT ต่างก็มีบริการ 3G พร้อมให้บริการอยู่แล้ว แต่พื้นที่ให้บริการนั้นก็จำกัดจำเขี่ยยิ่งนัก)

ผล พบว่า ในการชาร์จแบตเตอรี่เต็มพิกัด 1 ครั้ง จะสามารถใช้งาน EDGE เพื่อการทวีต ท่องเว็บ ถ่ายรูป เล่นเกม อย่างต่อเนื่องรวมๆ แล้วได้ราวๆ 9 ชั่วโมงครับ … ย้ำว่า “ต่อเนื่อง” … ดังนั้นหมายความว่า หากในวันหนึ่งๆ ของคุณ มีการใช้งานบ้าง เก็บไว้ใน

กระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อ หรือวางไว้บนโต๊ะเฉยๆ บ้าง หรือมีการฟังเพลงแบบไม่เปิดหน้าจอ มันก็จะสามารถอยู่ได้มากกว่า 9 ชั่วโมงอย่างแน่นอน ซึ่งเพียงพอต่อการนำไปใช้นอกบ้าน ออกไปทำงาน แล้วกลับมาบ้านตอนเย็นๆ ค่ำๆ โดยที่แบตเตอรี่ยังพอมี

เหลืออยู่บ้างแน่ๆ

อึดที่ 2 … การตกหล่น

จริงๆ ทดสอบการตกเนี่ย เป็นสิ่งที่ควรต้องทำนะครับ เพราะในชีวิตจริง มีความเป็นไปได้สูงที่เรากำลังยกหูโทรศัพท์อยู่ดีๆ หรือระหว่างเดินไปทวีตไปอยู่ดีๆ เกิดไปชนใครซักคนแล้ว iPhone 4 สุดที่รักเจ้ากรรมของเรา เกิดหลุดมือตกพื้นดังปุ๊ … แล้วมันจะรอด

ไห มอ่ะ การทดสอบครั้งนี้ ด้วยความเกรงใจผู้ให้ยืม ผมจึงขอทดลองที่ความสูงระดับประมาณ 1 เมตร บนพื้นพรมนะครับ ทำ Free Fall ตกลงพื้น ผลปรากฏว่า OK ไม่มีปัญหาอะไร … แต่จากการตกกระทบ ทำให้เห็นว่า หากตกลงบนพื้นแข็งๆ หน่อย อาจเกิด

ความเสียหายบนตัวเครื่องได้บ้าง อยู่ที่ว่าส่วนใดลงไปกระแทก … ก็ไม่แปลกหรอกนะ ที่ Apple จะให้เราซื้อ Bumper ไว้เป็นกันชนน่ะ

ต้อง บอกตรงๆ เลยว่า การมีซองใส่ โดยเฉพาะพวกซองซิลิโคน จะช่วยซับแรงกระแทกตอนตกได้ดี เหมือนกับการที่เราทำเครื่องเปลือยๆ ตกลงบนพื้นพรมครับ ดูวิดีโอกันนะคับ

อึดที่ 3 … ทนต่อรอยขีดข่วน

Steve Jobs ก็โวเอาไว้อีกเช่นกันว่า กระจกด้านหน้าและหลังของตัวเครื่อง เป็นแบบที่ใช้กับเฮลิคอปเตอร์ และกันรอยขีดข่วนได้

แน่นอนว่า นายกาฝากคนนี้ ขอท้าพิสูจน์ครับ … ดูคลิปเลยน่าจะกระจ่างกว่า

อึดที่ 4 … การทนต่อแรงกระแทก

การ กระแทกแบบที่เรียกว่า point load คือ แรงกระแทกตกอยู่ที่จุดจุดเดียวนี่แหละ ชนวนที่ทำให้กระจกหน้า (หรือหลัง) ของมือถือแตกมานักต่อนัก … เลยขอทดสอบแบบนวลๆ หน่อย โดยการกระแทกกับขอบโต๊ะไม้

และขอบปูน แบบแรงพอประมาณครับ … พบว่า หากตกแบบไม่รุนแรงมาก ก็น่าจะรอดพ้นการภยันตรายได้ แต่หากจงใจขว้างหรือโยน อันนี้ไม่รับประกัน



เครดิตคุณ kafaak